วันศุกร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

ความรู้ดีๆ เตรียมตัวก่อนยื่นกู้ ซื้อ/ สร้างบ้าน

เชื่อกันว่าเป้าหมายของชีวิตของหลายๆคน สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือเรื่องของการ ซื้อ / สร้างบ้าน ในฝันด้วยกันทั้งนั้น  แต่ปัจจุบันด้วยภาวะของเศรษฐกิจ ภาวะหนี้ครัวเรือน ก็อาจมีผลต่อความน่าเชื่อถือในการยื่นขอกู้เพื่อซื้อ / สร้างบ้าน กันเป็นจำนวนมาก วันนี้เราไปเจอบทความดีๆ ในการเตรียมความพร้อมก่อนจะมีบ้านสักหลัง ลองมาศึกษาไปพร้อมกันเลยค่ะ
1. ห้ามผ่อนก่อนกู้
อย่างที่บอกแล้วว่า ไม่ว่าจะ “ผ่อน” อะไร ดูจะเป็นเรื่องต้องห้ามไปซะทุกอย่างสำหรับคนอยากกู้ให้ผ่าน ซึ่งหลายคนอาจจะคิดว่าไม่เป็นไร ผ่อนเล็ก ผ่อนน้อย ผ่อนแค่ไม่กี่เดือน เช่น ผ่อนแค่ 3-6 เดือน แต่อาจจะเป็น 3-6 เดือนที่ยังอยู่ในช่วงพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะมีผลต่อการพิจารณา โดยเฉพาะในช่วงที่แบงก์เข้มข้นในการอนุมัติ ผู้พิจารณาจะดูตัวเลขภาระหนี้ในแต่ละเดือนของผู้กู้ แล้วนำมาหักกับรายได้ออก เหลือเป็นรายได้สุทธิ แม้ว่าการผ่อนเหล่านั้นจะใช้เวลาสั้นๆ ก็ตาม

ยกตัวอย่าง คุณมีรายได้ 30,000 บาท ถ้าคุณไม่มีผ่อนอะไรเลย และเป็นรายได้แน่นอนที่ได้ประจำทุกเดือนก็จะถูกนำไปคำนวณเป็นยอดวงเงินกู้ที่คาดว่าจะได้รับแบบเต็มๆ โอกาสที่คุณจะได้รับวงเงินกู้ตามที่มีการประเมินไว้ตั้งแต่ต้นก็สูง แต่ถ้าคุณผ่อนค่าสินค้า/บริการอยู่เดือนละ 3,000 บาท หนี้สินส่วนนี้ก็จะถูกนำไปหักออกจากรายได้ 30,000 บาท หัก3,000 เท่ากับรายได้ที่จะถูกนำไปคำนวณลดวงเงินกู้ก็จะลดเหลือเพียง 27,000 บาท อาจจะตัดโอกาสในการที่คุณจะกู้ผ่าน หรือกู้ได้เต็มจำนวนลง
2. ห้ามมีหนี้ค้าง
ประเด็นเรื่องหนี้ค้างชำระ ถือเป็นเรื่องต้องห้ามพื้นฐานมากๆ สำหรับคนที่อยากจะขอกู้ซื้อที่อยู่อาศัย ต้องเคลียร์หนี้ค้างชำระให้หมดเรียบร้อย ซึ่งถ้าจะให้ประวัติสวย ไร้กังวล ควรปิดบัญชีให้หมดก่อนเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 6 เดือน โอกาสในการกู้ผ่านหรือได้วงเงินตามเป้าจะสูงมาก แต่ถ้ามีหนี้ค้างตอนยื่นกู้ โอกาสถูกปฏิเสธมีสูง ซึ่งหากรอให้ถูกปฏิเสธก่อนค่อยมาเคลียร์หนี้ แล้วยื่นกู้ใหม่ อาจต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน ทำให้เสียเวลา

3. ห้ามกู้ฉุกเฉินก่อนยื่นกู้ซื้อบ้าน 
อันนี้เป็นอีกเรื่องที่ผู้พิจารณาอนุมัติวงเงินให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ เช่นกัน โดยกู้ฉุกเฉินจะมีด้วยกัน 2 แบบ คือ แบบกู้เป็นเงินก้อน คล้ายวงเงินส่วนบุคคล Personal Loan กับ แบบบัตรกดเงินสด ซึ่งถ้าเป็นแบบแรก คือ แบบกู้เป็นเงินก้อน ส่วนใหญ่ก็จะผ่อนชำระเป็นรายเดือน ก็จะเข้าข่ายคล้ายกับเรื่อง “ผ่อนสินค้า” แต่อาจจะดูหนักกว่าเล็กน้อย เพราะเหมือนเป็นภาระหนี้ที่อาจจะยาวกว่า

แต่ถ้าเป็นแบบบัตรกดเงินสด วิธีการพิจาณาของแต่ละแบงก์มีเกณฑ์แตกต่างกัน และในแต่ละช่วงเวลาก็แตกต่างกันเช่นกัน โดยการพิจารณาในภาพกว้างบางแบงก์ จะดูว่า ผู้กู้มีบัตรกดเงินสดกี่ใบ ซึ่งถ้าเป็นช่วงที่เข้มกับการปล่อยสินเชื่อมากๆ แม้จะยังไม่มีการกดใช้เงินในบัตรกดเงินสด แต่ผู้พิจารณาก็จะประเมินว่า ยิ่งมีบัตรกดเงินสดมาก ยิ่งมีความเสี่ยงที่บุคคลคนนั้นมีหนี้เท่ากับวงเงินได้ทันที เพราะบัตรเหล่านี้สามารถกดเงินสดออกมาได้เลย ส่วนผู้กู้ที่เคยมีประวัติการกดเงินสดมาใช้ประจำ แม้จะมีการชำระตามปกติ แต่ผู้พิจารณาจะประเมินการใช้จ่าย และมองว่ามีความเสี่ยงในการมีภาระหนี้สูงขึ้นมาอีก
ในหลายกรณี การกดใช้บัตรกดเงินสดในจำนวนค่อนข้างสูงต่อเนื่อง ก็กลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้กู้ไม่ผ่านได้เช่นกัน ซึ่งหากรู้ว่าจะต้องยื่นกู้ซื้อที่อยู่อาศัย เพื่อความชัวร์ ควรปิดบัตรกดเงินสดล่วงหน้าอย่างน้อย 3 เดือน อาจช่วยให้มีโอกาสที่ดีขึ้น
กรณีที่กู้ร่วมกับบุคคลอื่น แล้วผู้กู้ร่วมรายใดรายหนึ่งกู้ฉุกเฉินก่อนยื่นซื้อบ้าน จะทำให้ความสามารถในการกู้ลดลงเช่นกัน เพราะเท่ากับมีภาระหนี้จากตรงนั้นครึ่งหนึ่งด้วย
4. ห้ามถอนเงินเดือนหมด 
สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่เตรียมตัวซื้อที่อยู่อาศัย นอกจากการอัพเดตสมุดบัญชีอย่างสม่ำเสมอแล้ว หนึ่งในหลักสำคัญในการพิจารณาความสวยงามทางการเงิน นั่นคือ สมุดบัญชีเงินเดือน ห้ามถอนเงินเดือนออกหมด ควรทยอยกดออก หรือถ้าจะกดเงินรอบเดียว ควรให้มีเงินคงเหลือในบัญชีอย่างต่อ 1/3 ของรายได้แต่ละเดือนเพื่อแสดงให้เห็นว่า ยังมีเงินส่วนหนึ่งเก็บไว้เป็นเงินออมเบื้องต้น หรือเป็นเงินฉุกเฉิน

ขอบคุณ : ddproperty , btb


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น