
1.สภาพแวดล้อมรอบบ้าน คุณต้องดูแลเอาใจใส่ซะบ้าง
เริ่มจากเรามาสำรวจรอบบ้านกันดีกว่า เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีและลดปัจจัยเสี่ยงที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ อาจจะมีการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีด้วยการจัดสวน เพื่อช่วยให้อากาศสะอาดและสดชื่นขึ้น อาจเป็นสวนกระถาง สวนแนวตั้งสำหรับพื้นที่น้อย หรือสวนดาดฟ้าสำหรับบ้านในเมือง ก็ช่วยให้ผ่อนคลายได้ไม่น้อย
- มีการทำรั้วเพื่อป้องกันฝุ่นและเสียงดังจากถนน ซึ่งเป็นรั้วทึบจะป้องกันได้ดีที่สุด แต่จะดูทึบและอึดอัด อาจทำเป็นรั้วต้นไม้ ปลูกไม้เลื้อยอย่างตีนตุ๊กแกคลุมผนัง
- มีการปลูกต้นไม้สลับกับผนังทึบ หรือใช้วัสดุที่มีผิวสัมผัสต่างกัน ก็จะช่วยลดความอึดอัดในเรื่องของรั้วที่ทึบลงได้ กำจัดปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพ เช่น น้ำขังหรือวัชพืชรกทึบที่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงและสัตว์ที่ไม่พึงประสงค์
2. ทำบ้านให้ปลอดฝุ่น
เรานั้นไม่สามารถที่จะหลบหลีกฝุ่นละอองที่จะเข้าบ้านเราจากลมที่พัดมาไม่ได้ แต่เราสามารถลดการกักเก็บดฝุ่นไว้ในบ้านของเราได้ค่ะ ซึ่งสามารถทำได้ด้วยวิธีการดังนี้
- ลดซอกมุมซึ่งอาจเป็นที่เก็บฝุ่นตั้งแต่การวางแปลนบ้านและเฟอร์นิเจอร์ไม่ให้เกิดซอกเล็กซอกน้อย หรือพื้นที่ที่เข้าไม่ถึง โดยเฉพาะส่วนที่มักสกปรกง่ายอย่างห้องครัวและห้องน้ำ
- มีการทำที่เก็บของหรือตู้แบบปิดได้ เพื่อกันฝุ่น นอกจากจะกันในเรื่องของฝุ่นแล้วยังช่วยในเรื่องของความเรียบร้อยอีกด้วย อาจใช้วัสดุโปร่งอย่างกระจกใส - ฝ้า พอลิคาร์บอเนต และอะคริลิกทำหน้าบานเพื่อให้ดูทึบและให้ความรู้สึกอึดอัดอีกด้วย
- ปูพื้นและทำผนังด้วยวัสดุไม่เก็บฝุ่น มีรอยต่อน้อย และทำความสะอาดง่าย เช่น กระเบื้อง เซรามิก หินขัด ซีเมนต์ขัดมัน ไม้ผิวเรียบรวมทั้งวัสดุบุเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถถอดซักและดูแลง่าย
3.ว่าด้วยเรื่องกำจัดสิ่งปฏิกูล
ในเรื่องของเศษอาหารหรือขยะที่อยู่ในบ้านของเรานั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่ดึงดูดสัตว์และแมลงพาหะของโรคร้าย จึงต้องมีระบบจัดเก็บที่ดี
- มีการแยกขยะเปียก-แห้ง โดยเฉพาะเศษอาหารจากครัวต้องมีฝาปิดมิดชิดและนำไปทิ้งทุกเย็น เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งดึงดูดหนูและแมลงสาบที่ออกหากินตอนกลางคืน
- มีการสำรวจรอยแตกร้าวของบ้าน เพราะรอยแตกร้าวที่เกิดขึ้นกับผนังบ้านของเรานั้นอาจเป็นทางเข้าของสัตว์และแมลงทุก 3 เดือน โดยเฉพาะทางหรือรางระบายน้ำ แนวท่อน้ำทิ้งจากครัวและห้องน้ำ ช่องโหว่ตามหลังคาและฝ้าชายคา รอยร้าวของผนังบ้าน
4.เปิดให้แสงสว่างและให้อากาศถ่ายเท
- อย่าปล่อยให้บ้านมืดทึบและอับชื้น เพราะจะเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค และทำให้รู้สึกอึดอัดจนอยู่ไม่สบาย
- อาจมีการทำช่องลมเปิดให้มีแสงธรรมชาติเข้ามาได้ทั่วบ้าน โดยเฉพาะห้องที่มีความชื้นสูงอย่างห้องน้ำและห้องครัว อาจทำหน้าต่างเพื่อให้แสงแดดส่องถึง เพื่อช่วยฆ่าเชื้อโรคและลดความชื้น
- ทำช่องเปิดให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก และถึงแม้ว่าบ้านเราจะมีเครื่องปรับอากาศแต่ก็ควรเปิดหน้าต่างเป็นครั้งคราว ให้อากาศภายนอกได้หมุนเวียนเข้ามาบ้าง และช่วยลดกลิ่นอับได้ด้วย
5.ควรออกแบบให้ทุกพื้นที่ในบ้านสามารถทำความสะอาดได้ง่าย
ในเรื่องของความสะอาดนั้น แน่นอนว่าบ้านจะสะอาดไปไม่ได้ ถ้าไม่มีการทำความสะอาด ดังนั้นแม้จะป้องกันฝุ่นแล้วก็ตาม แต่ต้องหมั่นทำความสะอาดอยู่เสมอ โดยมีสิ่งที่ต้องคำนึงถึง ดังนี้
- ก่อนจะติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ ดูระยะที่คนเราเอื้อมถึง จะทำความสะอาดได้ง่าย แต่หากเกินระยะที่เอื้อมถึง อาจเตรียมตัวช่วยอย่างบันไดพับ บันไดลิงหรืออุปกรณ์ทำความสะอาดด้ามยาวที่เคลื่อนย้ายง่ายไว้ใกล้ ๆ หรือทำเป็นตู้ปิดทึบ ก็ไม่เก็บฝุ่นแล้ว
- พื้นที่หลัง ใต้ตู้มักทำความสะอาดยาก สามารถแก้ปัญหาได้โดยทำตู้ให้สูงถึงฝ้าเพดาน ก็ได้ที่เก็บของเพิ่มแล้วยังไม่เก็บฝุ่นด้วย ส่วนใต้ตู้นั้น ทำขาให้สูงสัก 15 เซนติเมตร ก็ทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น หรือทำขาตู้แบบทึบ ก็ลดการเก็บฝุ่นได้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก: www.vcharkarn.com/varticle/44176
สร้างบ้าน รับสร้างบ้าน บริษัทรับสร้างบ้าน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น